วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ต้นกระเพรา

ต้นกระเพรา 
(ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum sanctum linn.)เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30 - 60 ซม.

       ชื่ออื่น : กระเพราแดง กระเพราขาว (ภาคกลาง) ก่ำก้อขาว ก่ำก้อดำ กอมก้อขาว กอมก้อดำ (เชียงใหม่ และภาคเหนือ)ห่อตูปลู ห่อกวอซู (กะเหรี่ยง-แม่อ่องสอน)
     ลักษณะ
             ลำต้น ค่อนข้างแข็ง ตามลำต้นมีขน ใบ เป็นใบเดี่ยวการเกาะติดของใบบนกิ่งแบบตรงข้าม
                      สลับตั้งฉาก เรียงตรงข้าม รูปรี กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2.5-5 ซม.   

                 ใบ ปลายแหลมหรือมน โคนแหลม ขอบจักฟันเลื่อยและเป็นคลื่น แผ่นใบมีขน
               ดอก เป็นแบบช่อฉัตร ออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ยาว 8-10 ซม. ดอกย่อยมีขนาด  
                      เล็ก รูปคล้ายระฆัง กลีบ ดอกมีทั้งชนิดสีขาวลายม่วงแดงและสีขาว โคนกลีบเชื่อมติด 
                      กันเป็นกรวย ส่วนปลายแยกเป็น ส่วน ส่วนบนแยกเป็น กลีบปลายแหลมเรียว 
                      ส่วน ล่างมีกลีบเดียวค่อนข้างกลม ผิวกลีบด้านในเกลี้ยง ด้านนอกมีขนตามโคนกลีบ
                      กลีบเลี้ยงสีแดงน้ำตาลแกมม่วง และสีเขียว เนื้อกลีบแข็ง ส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็น 
                     กรวย ส่วนปลายแยกเป็นกลีบ ปลายแหลมแบบหนาม ก้านดอกย่อยสีเขียว ยาว  
                     ประมาณ 0.20 - 0.30 ซม 
               ผล แห้งแล้วแตกออก เมล็ด เล็ก รูปไข่สีน้ำตาล มีจุดสีเข้มเมื่อนำไปแช่น้ำเปลือกหุ้มเมล็ด
                    พองออกเป็นเมือก
     สรรพคุณ
            ใบ บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้อง แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน
                และ ขับลม
           เมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอกบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่น
                 ละอองเข้า ผงหรือฝุ่น  ละอองนั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย

           ราก ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการเเละยังมีประโยชน์อีกมากมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น